ส่อง 10 ธรรมเนียมวาเลนไทน์สุดแปลกรอบโลก (ตอนที่ 1)

Spread the love

สุขสันต์วันวาเลนไทน์

หากพูดถึงวันวาเลนไทน์ คนส่วนใหญ่มักนึกถึงบรรยากาศที่คู่รักมอบดอกไม้วาเลนไทน์ หรือช็อกโกแลตอร่อย ๆ ให้แก่คนพิเศษหรือคนที่แอบชอบ แต่เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่คะว่าในแต่ละประเทศก็มีธรรมเนียมของเทศกาลแห่งความรักที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาเที่ยวชมธรรมเนียมสุดแปลกที่น่าสนใจของเทศกาลนี้ในประเทศต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาเลย!

1. ประเทศฝรั่งเศส

คู่รักหนุ่มสาวในกรุงปารีส มีหอไอเฟลเป็นพื้นหลัง

นอกจากประเทศฝรั่งเศสจะมี “กรุงปารีส” เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความรักโรแมนติกแล้วยังเป็นประเทศที่มีการ์ดวาเลนไทน์เกิดขึ้นครั้งแรกที่นี่อีกด้วยค่ะ ซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเกิดจากในปี ค.ศ.1415 เจ้าชายชาร์ล ดยุคแห่งเมืองออร์ลีนส์ได้ส่งจดหมายรักถึงภรรยาของเขาที่ถูกคุมขังอยู่ในคุกของกรุงลอนดอน จนทำให้เวลาผ่านไป การ์ดวาเลนไทน์กลายเป็นสิ่งที่คู่รักนิยมส่งมอบให้แก่กันนั่นเองค่ะ

2. ประเทศเดนมาร์ก

Snowdrops ดอกไม้วาเลนไทน์ของชาวเดนมาร์ก

แม้ว่าประเทศเดนมาร์กจะเป็นประเทศที่เพิ่งเริ่มฉลองวาเลนไทน์ไม่นานมานี้เอง แต่ก็มีธรรมเนียมของเทศกาลนี้ด้วยเหมือนกันค่ะ คือ ผู้คนในประเทศนี้เขาจะมอบดอกไม้วาเลนไทน์เป็นดอก Snowdrops ที่เป็นดอกไม้สีขาวโพลนแทนดอกกุหลาบวาเลนไทน์ นั่นเอง ซึ่งมอบให้ได้ทั้งคนรักและเพื่อนสนิทที่รู้ใจค่ะ นอกจากนั้นคู่รักชาวเดนมาร์กยังมีการแลกการ์ดหรือบัตรของคู่รักให้แก่กันอีกด้วยค่ะ โดยการ์ดหรือบัตรคู่รักนี้เป็นการ์ดโปร่งใส คล้าย ๆ การส่งการ์ดแบบทั่ว ๆ ไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างก็คือฝ่ายชายจะเขียนจดหมายนิรนามเป็นบทกลอนหรือมุกตลกขำขันด้วยลายมือของตนเอง โดยไม่ระบุชื่อผู้ส่งให้แก่ฝ่ายหญิง และถ้าฝ่ายหญิงเดาชื่อผู้ส่งได้ถูกก็จะได้รับไข่อีสเตอร์เป็นรางวัลค่ะ

3. ประเทศเวลส์

ช้อนแห่งความรักของชาวเวลส์

เครดิตภาพ: https://voiceofnature.tumblr.com/

ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้น ชาวเวลส์จะไม่มีการฉลองวาเลนไทน์กันค่ะ เพราะพวกเขาได้จัดงานฉลองกันไปแล้วในวันที่ 25 มกราคม ซึ่งตรงกับวันแห่งนักบุญ Dwynwen นั่นเอง และในวันนั้นเองก็จะมีการมอบ “ช้อนแห่งความรัก” ที่มีลักษณะเป็นช้อนไม้แกะสลักลวดลายสวยงามให้แก่คนรักค่ะ โดยลวดลายที่แกะสลักก็จะสื่อความหมายแตกต่างกันไป เช่น รูปเกือกม้า หมายถึง “ความโชคดี”, รูปล้อ หมายถึง “การสนับสนุนดูแลกันและกัน” แต่ส่วนมากจะแกะสลักเป็นรูปหัวใจและกุญแจกัน เพื่อสื่อว่า “คุณได้ไขกุญแจหัวใจของฉันเข้าไปแล้ว” นั่นเองค่ะ

4. ประเทศญี่ปุ่น

Honmei Chocolate ช็อกโกแลตบอกรักจากใจของสาวญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่จัดฉลองวาเลนไทน์ได้แบบจัดหนักจัดเต็มแบบสุด ๆ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมีการจัดฉลองลากยาวไปถึงเดือนมีนาคม แถมยังมีธรรมเนียมประเพณีหนึ่งชื่อว่า “Giri Choco” หรือ “การมอบช็อกโกแลตให้ตามมารยาท” ที่สาวญี่ปุ่นจะต้องมอบช็อกโกแลตให้แก่ผู้ชายทุกคนที่เธอรู้จัก เช่น เพื่อน หัวหน้า เพื่อนร่วมงาน ซึ่งการมอบช็อกโกแลตแบบนี้จะมีฉลากติดไว้ชัดเจน เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสับสนว่าเป็นการมอบให้ในเชิงชู้สาวนั่นเอง แต่หากมอบให้แก่ชายคนรักหรือคนที่ตนแอบชอบก็จะเป็นช็อกโกแลต “Honmei Choco” และถ้าฝ่ายชายชื่นชมหรือมีใจให้ฝ่ายหญิงเช่นกันก็จะมอบช็อกโกแลตตอบแทนในวันที่ 14 มีนาคม หรือวันสีขาว (White Day) ค่ะ

5. ประเทศเกาหลี

ช็อกโกแลตบอกรักของสาวเกาหลี

ประเทศเกาหลีเป็นประเทศที่มีวันวาเลนไทน์มากกว่าประเทศอื่น ๆ ในโลก ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะในวันที่ 14 ของทุกเดือน หนุ่มสาวชาวเกาหลีจะมีการฉลองวาเลนไทน์กันค่ะ ไม่ใช่แค่เฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น เช่น 14 มีนาคม เป็นวันสีขาว (White Day) ที่ฝ่ายชายจะมอบช็อกโกแลตให้ฝ่ายหญิงที่ตนชอบกลับ, 14 เมษายน เป็นวันสีดำ (Black Day) ที่คนโสดจะกิน จาจังเมียน (jajangmyeon) บะหมี่ดำ เพื่อประชดหรือตอกย้ำความโสดของตัวเอง, 14 พฤษภาคม เป็นวันดอกกุหลาบ (Rose Day), 14 มิถุนายน เป็นวันแห่งการจูบ เป็นต้น แต่ถ้าจัดฉลองแบบจัดหนักจัดเต็มสุด ๆ ก็จะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนเลยค่ะ

ผ่านไป 5 ประเทศแล้ว เห็นมั้ยคะว่าการฉลองวันแห่งความรักของแต่ละประเทศมีเอกลักษณ์และธรรมเนียมปฏิบัติแตกต่างกัน ใครอยากรู้วิธีฉลองวาเลนไทน์ของประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นดินแดนส่งออกช็อกโกแลตอย่าง กานา หรือประเทศที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยอย่าง แอฟริกาใต้ อย่าลืมติดตามตอนที่ 2 ของ “ลัดเลาะทอดน่อง…ส่อง 10 ธรรมเนียมวาเลนไทน์สุดแปลกรอบโลก” นะคะ


Spread the love